หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2555

ลั่นทม , จำปา , ลีลาวดี ดอกไม้ประจำจังหวัดมหาสารคามกับเรื่องราวในพระพุทธศาสนา

ดอกลั่นทม , จำปา หรือ ลีลาวดี มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Plumeria ssp. ในวงศ์ APOCYNACEAE ชื่อสามัญ Frangipani มีลักษณะเป็นไม้พุ่มขนาดกลาง เปลือกลำต้นหนา กิ่งอ่อนดูอมน้ำ มียางสีขาวเหมือนนม ใบรีใหญ่สีเขียว ออกดอกทีละหลายดอก หนึ่งดอกมี4-5กลีบ มีหลายสีซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดและสายพันธุ์ แต่ของจังหวัดมหาสารคามมีสีขาว ต้นไม้ชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดที่อเมริกาใต้
ความเชื่อเรื่องดอกไม้ชนิดนี้ในพระพุทธศาสนานิกายมหายาน โดย Alice Getty สันนิษฐานว่าเป็นส่วนประกอบของลักษณะของพระพุทธเจ้าที่จะลงมาตรัสรู้เป็นสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ต่อไป ต่อจากพระโคตมพุทธเจ้า นั้นคือพระศรีอาริยเมตไตย ลักษณะนั้นคือ จะต้องมีรูปสถูปปรากฎบนชฎามงกุฎ หรือด้านหน้าของมวยผม และแผ่นผ้ากุฎิสูตรพันอยู่รอบเอว ผูกเป็นบมอยู่ข้างใดข้างหนึ่ง ส่วนมากจะเป็นข้างซ้าย มีชายห้อยลงมา
อย่างไรก็ตาม สัญลักษณ์ที่ปรากฏบนมวยผมอาจจะไม่ใช่สถูปเสมอไป เพราะบางครั้งเครื่องประดับบนศรีษะจะเป็นลักษณะของผ้าโพกศรีษะ และมีดอกไม้ประดับอยู่ที่ผ้าโพกศรีษะด้วย โดยเฉพาะดอกไม้นั้นจะอยู่ข้างหน้าของผ้าโพกศรีษะเสมอ ดอกไม้ที่ปรากฏอยู่บนผ้าโพกศรีษะหรือบนเครื่องประดับบนศรีษะของพระศรีอาริยเมตไตรนั้นหมายถึงดอก “นาคเกษร” หรือ “ดอกจำปา” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระศรีอาริยเมตไตร กับยังหมายถึงต้นไม้ที่พระศรีอาริยเมตไตรจะลงมาตรัสรู้ก็ได้
ตามคติความเชื่อของพระพุทธศาสนา เชื่อว่าถ้าพระพุทธเจ้าตรัสรู้พระองค์ใดที่ตรัสรู้ใต้ต้นไม้ชนิดใด ต้นไม้นั้นจะถูกเรียกว่าต้นโพธิ์ หซึ่งมหายถึงต้นไม้แห่งปัญญา เมื่อสิ้นสมัยพุทธศาสนาของพระโคตมพุทธเจ้า คือ 5,000 ปีหลังเสด็จปรินิพพาน
ส่วนในความเชื่อของพระพุทธศาสนานิกายหินยาน เชื่อว่า ในสมัยพุทธกาล พระศรีอริยเมตไตรได้มาประสูติเป็นพระโอรสของพรเจ้าอชาติศัตรู กษัตริย์แห่งแคว้นมคธ กับนางกาญจนมเหสี พระราชโอรสพระองค์นั้นพระนามว่า “อชิตะ” เมื่อพระอชิตะเจริญพระชันษาพระองค์ทรงสนพระทัยใฝ่ในเรื่องพุทธศาสนามาก โดยเสด็จเข้าเฝ้าองค์สมัมาสัมพุทธเจ้าและทรงสนทนาธรรมอยู่เสมอๆ กับทรงปฏิบัติธรรมอยู่เป็นนิจ เมื่อพระองค์ทรงเบื่อหน่ายในเพศฆราวาสจึงเสด็จออกผนวช
เมื่อพระองค์เสด็จออกบวชแล้วก็ตั้งใจศึกษาธรรมจากพุทธพจน์เป็นอย่างดี มีสติปัญญาล้ำเลิศสามารถที่จะบรรลุมรรคผลได้ แต่ก็ไม่ได้บรรลุ ด้วยพระองค์ไม่ปรารถนาที่จะเป็นเพียงสาวกเท่านั้น แต่พระองค์ปรารถนาที่จะตรัสรู้เป็นองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า หากพระองค์บรรลุมรรคผลเสียแต่แรก ก็นับว่าเป็นการปิดโอกาส พุทธภาวะที่ปรารถนาก็จะไม่สำเร็จ
นอกจากนี้ในคัมภีร์หินยานยังได้กล่าวถึงพุทธทำนาย ในการกำเนิดพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป โดยพระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ว่า  “ในภัทรกัปป์นี้ พระอชิตะจักได้เป็นพระพุทธเจ้าพระนามว่า พระศรีอาริยเมตไตร ในอนาคตกาลต่อจากตถาคต”
นอกจากนี้ชื่อที่เรียกดอกจำปา หรือ ลั่นทม ที่ตั้งเมื่อไม่กี่ปีมานี้ คือลีลาวดี ยังมีความหมายทางพระศาสนา โดยเป็นการอิงเรื่องราวความรักต่างชนชั้นของหญิงที่ชื่อลีลาวดีกับเรวตะที่เกิดขึ้นในสมัยพุทธกาลอีกด้วย
อาจกล่าวได้ว่า ดอกลั่นทม , จำปา หรือลีลาวดี ที่จังหวัดมหาสารคามนำมาใช้เป็นดอกไม้ประจำจังหวัด เป็นดอกไม้ที่สำคัญในทางพระพุทธศาสนา ทั้งในนิกายมหายานและหินยานทั้งสิ้น
                 

2 ความคิดเห็น: